วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 10 นาฬิกาทราย

เหมือนวันเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็วแปลกแต่จริงเสมอเวลาที่มนุษย์เรามีความสุขช่วงเวลาจะสั้นกว่าช่วงทุกข์ 

เหมือนวันพักผ่อนเพิ่งเกิดขึ้นยังไม่ทันไร ช่วงเวลาแห่งความสุขสำราญก็พลันจบสิ้นลง เป็นดั่งนาฬิกาทรายที่เม็ดทรายไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วง จะเหนี่ยวรั้งให้ค้างไว้อยู่ในโถด้านบนก็เกินจะต้านทานได้



ช่วงเวลาแห่งความยุ่งเหยิงความหวั่นไหวความกังวลกลับไม่หมดเร็วเหมือนกับเวลาแห่งความสุข เฝ้าแต่เวียนวนกลับมาให้เจ้าของความคิดได้รู้สึกถึงความท้าทายในชีวิตอยู่สม่ำเสมอ

ฉันเก็บกระเป๋าพลางก็เกิดเป็นความคิด

สายลมโชยผ่านใบหน้าปลายผมปลิวสะบัดลมทะเลแทรกผ่านหน้าต่างห้องนอนที่หันหน้าสู่ท้องทะเล ประหนึ่งว่ารับรู้ถึงการเตรียมเดินทางกลับของนักเดินทาง

ฉันมองออกนอกหน้าต่างอีกครั้ง เปลวแดดกระทบผิวน้ำส่องประกายระยิบระยับน้ำกระเพื่อมเคลื่อนไหวไม่มีหยุดพัก ตอบกลับความสนใจจากสายตาคู่นี้อย่างร่าเริง ช่างเพลินตาเสียจริง’ ฉันคิด

เวลานี้ยังเป็นวันสุดท้ายของวันหยุด แต่เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่จะเริ่มงาน ความกังวลทำให้ฉันรู้สึกกระสับกระส่ายพลันหายใจสั้นรัว บ่งบอกถึงความเครียดและกังวล ความสงบสุขปลิวหายไป ความหวั่นไหวเข้าแทนที่ ความอึมครึมในจิตใจฟุ้งกระจายไปทุกมุมห้อง

นกนางนวลบินโฉบเหนือผิวน้ำดึงความสนใจของฉันออกจากความวิตกอีกครั้ง ลมหายใจเริ่มลึกและยาวความสงบทางใจวกกลับมา

ความคิดมนุษย์เราไวเหมือนกระพริบตา

จริงซินะ’ ฉันจับความคิดตัวเองได้ทันตอนนี้ ณ เวลานี้ ฉันเป็นสุข เพียงแค่ฉันหลุดจากความเป็นตอนนี้ เพื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงโง่จริง’ ฉันนึกขำในความโง่เขลาของตัวเอง


กระเป๋าถูกจัดวางข้าวของอย่างเรียบร้อยซิปค่อยๆถูกบรรจงรูดปิดฉันอมยิ้มน้อยๆเผยความสุขออกมาจากภายในพร้อมแล้วสำหรับการกลับสู่โลกแห่งการทำงาน

ฉันหยิบยืมความทุกข์จากอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นมาใช้ในความคิดสร้างความเศร้าหมองการอยู่ตรงนี้กับตอนนี้คือความจริงมันไม่ใช่พรุ่งนี้จะเกิดอะไรแต่มันคือตอนนี้ที่เราจะสร้างอะไรและจะเป็นอะไร

เวลาคือตอนนี้
Time is now

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 9 ภาพสีน้ำ


บรรยากาศแจ่มใสตรงหน้ากับอเมริกาโน่ร้อนในมือ สุขที่สุด เวลานี้ 

ฉันไม่เคยสงสัยเลยว่า คนอื่นจะรู้สึกอย่างไรถ้าได้ยืนอยู่ในจุดที่ฉันยืนอยู่ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งแวดล้อมรอบตัวและภาพตรงหน้าก็ไม่ใช่สภาพแวดล้อมเดิมที่ฉันเคยอยู่แล้ว เม็ดทรายตรงหน้าฉันตอนนี้ เมื่อคุณได้มายืนตรงจุดที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เม็ดทรายที่ทายทักฉันยามอรุณรุ่ง ย่อมเป็นไปได้ว่าอันตธานหายไปก่อนที่ผู้มาเยือนคนใหม่จะมาถึงเสียอีก ยังมิได้นับรวมเกลียวคลื่นที่ปะทะชายฝั่งและสลายไปต่อหน้าต่อตาของฉัน ฉันได้บันทึกภาพ กลิ่น เสียง สัมผัส ไว้ในความทรงจำของฉันแต่เพียงผู้เดียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ฉันเป็นผู้โชคดีได้ยืนอยู่ตรงนี้ 
ฉันทอดสายตาทาบขนานเรื่อยไปตามชายหาด พลันสายตาก็เห็นหญิงสาวพร้อมขาตั้งไม้กำลังลงสีสันบนผืนผ้าแคนวาสอย่างเพลิดเพลิน 

ไม่รอช้า ฉันเดินลงระเบียง ไร้ซึ่งการสวมรองเท้า การละขาดจากเครื่องขวางกันระหว่างฝ่าเท้ากับเม็ดทราย เป็นอีกประสบการณ์ของประสาทสัมผัส ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ฉันเดินตรงรี่เข้าไปใกล้ ก่อนจะเอ่ยเสียงใดๆ ฉันขอยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มเพื่อความอิ่มเอมใจอีกครั้งหนึ่ง

พิมพ์ผกา เธอวาดอะไรอยู่ฉันเปล่งเสียงถามสู้เสียงคลื่นลม พิมพ์ผกาหันมาด้วยหน้าตาภาคภูมิใจ หรี่ตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ ทำให้รู้ฉันรู้ว่า เพื่อนฉันอยากอวดผลงาน ไร้ซึ่งการตอบใดๆจากเพื่อนของฉัน และแน่นอน ตอนนี้ฉันอยู่ตรงหน้าผืนผ้าใบที่มีสีสันแต่งแต้มอย่างสวยงาม ฉันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทั้งๆที่เราเรียนมัธยมมาด้วยกัน แต่ฉันกลับไม่เคยเห็นพิมพ์ผกาวาดภาพสีน้ำ และไม่เพียงเท่านั้น ภาพสีน้ำนี้ช่างสวยสดงดงามเกินที่มือสมัครเล่นจะสามารถแต่งแต้มสีสันได้

ฉันขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย หน้าตาแฝงความสงสัยไม่สามารถหลบซ่อนไปจากใบหน้าได้ พิมพ์ผกาจึงทักถามถึงอาการแปลกใจของฉัน

เธอเรียนวาดภาพตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่เคยรู้เลย และ..........” ฉันทอดเสียงยาวภาพนี้สวยมากความสงสัยของฉันได้หลุดผ่านออกมาเป็นเสียง ส่งตรงไปยังผู้รับสารตรงหน้า

พิมพ์ผกาไม่ได้ตอบทันที เธอหันไปแต่งแต้มสีสันบนผืนผ้าใบต่ออีกสักหน่อย ฉันสังเกตุได้โดยทันทีถึงความสุขสงบในใจของพิมพ์ผกา การวาดภาพนี้ เป็นการกระทำที่ผสานภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าเข้ากับความรู้สึกของช่างวาดแล้วส่งผ่านมาที่การเคลื่อนไหวของร่างกาย ใช่! มันคือการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อคนเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ชื่นชอบและมีความสุข มันไม่ใช่กลุ่มเซลล์เพียงแค่อวัยวะเดียวที่จะรับรู้ แต่มันคือเซลล์ทั้งหมดในร่างกาย ท่วงท่าในการยืน การยืดเหยียดของแขน การควบคุมมือ การสะบัดปลายภู่กัน นี่คือความสอดคล้องของร่างกาย

พิมพ์ผกาถอยหลังออกมาก้าวหนึ่ง เพื่อจะสามารถมองภาพได้อย่างครอบคลุม ตรวจสอบความสมบูรณ์ครั้งสุดท้าย สีหน้าบ่งบอกถึงความพึงพอใจ ฉันช่วยพิมพ์ผกาเก็บข้าวของ แล้วเราก็เริ่มเดินบนชายหาดมุ่งตรงสู่บ้านพักตากอากาศ




ฉันอยากที่จะวาดภาพ มันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจที่ฉันไม่กล้าทำ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะวาดภาพสีน้ำได้ ฉันทำไม่ได้ ฉันบอกกับตัวเองแบบนั้นมาตลอด ทั้งๆที่ฉันอยากจะวาด แต่กลัวมากที่จะทำมันพังพิมพ์ผกาเอ่ยขึ้น สบตาฉันทีหนึ่ง แล้วเดินหน้าต่อไป 

จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันก็ไม่สามารถทนกับการไม่ได้ทำในสิ่งที่ฉันปรารถนาพิมพ์ผกาเว้นระยะการพูดเล็กน้อย 
ฉันเริ่มหาข้อมูล ดูคลิปวิดีโอการวาดภาพสีน้ำ ซื้ออุปกรณ์ แล้วก็เริ่มลงมือพิมพ์ผกาหันมามองฉันเหมือนอยากจะถามว่า เธอเชื่อใหมว่าฉันตัดสินใจทำมันด้วยตัวเอง
พิมพ์ผกาเปิดภาพในโทรศัพท์มือถือให้ฉันดู ภาพสีน้ำภาพแรกที่เธอวาด มันยอดเยี่ยมมาก แม้จะเป็นภาพแรก 

ความกลัวมันอยู่ในหัวของฉัน ที่ขัดขวางฉันเองไม่ให้ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่ใครพิมพ์ผกาพูดพร้อมส่งยิ้มให้ ฉันรู้ว่าเพื่อนของฉัน ในใจตอนนี้ มันฟูและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและเติมเต็ม

ฉันดีใจกับพิมพ์ผกามาก เธอได้เรียนรู้ความกลัวที่ก่อขึ้นในใจด้วยตัวเอง และทลายขีดจำกัดด้วยตัวเอง รางวัลของผู้กล้าได้ปรากฎต่อตัวเธอและเพื่อนของเธอแล้ว ภาพสีน้ำในมือคือหลักฐาน

ผลงานอันยอดเยี่ยมปรากฎสู่สายตาผู้คนแล้ว

ไม่มีรั้วใดที่น่ากลัวเท่า รั้วความคิดของเรา
ไม่มีใครสามารถทลายขีดจำกัดของเราลงได้ นอกจากเราจะทะลวงผ่านขีดจำกัดนั้นไป
รางวัลอันยิ่งใหญ่และคู่ควร รอเราอยู่หลังกำแพงที่เราสร้างเองเสมอ


Wisdom My Way

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 8 เมื่อการเริ่มต้น ถือกำเนิดจากตอนจบ


เมื่อดวงอาทิตย์ค่อยๆเคลื่อนลงต่ำ ความสว่างก็ค่อยๆหรี่ลง เหมือนถูกหมุนปรับระดับแสง หรือความจริงแล้ว ปุ่มปรับความมืดค่อยๆ ถูกหมุนขึ้นอย่างช้าๆ ปล่อยให้แสงสีดำค่อยๆ พวยพุ่งมาเคลือบท้องฟ้ากันแน่ ฉันมองดวงอาทิตย์ค่อยๆ เลื่อนลับไป สิ้นแล้วแสงตะวัน  

ความมืดเข้าครอบงำทั่วทั้งบริเวณ ฉันไม่แน่ใจนักว่าพระจันทร์จะช่วยอะไรได้ ดาวเป็นเพียงแค่เครื่องประดับท้องฟ้าเท่านั้น แสงไฟนีออนดูจะไม่เข้ากับบรรยากาศสักเท่าไหร่ เมื่อถูกปิดลง ก็คงเหลือเพียงกองไฟเล็กๆที่ให้แสงสว่าง

การนั่งเล่นริมชายหาดเงียบๆกับเพื่อนสนิท ดูจะเป็นสิ่งที่เราได้ทำไม่บ่อยนัก บ่อยครั้ง ฉันกับพิมพ์ผกามักจะเจอกันในร้านอาหารสุดเก๋ในเมืองมากกว่า เสียงอึกกระทึกโอบรอบทุกทิศทาง เสียงคุยที่ต้องปรับระดับให้ผู้ฟังได้ยิน ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย ทุกครั้งที่เจอกัน เรามักนำเสนอเรื่องราวของแต่ละฝ่ายอย่างออกรส แล้วตอนนี้ ดูเหมือนไม่ต้องใช้เสียงใดๆ เพื่อสนทนา กลับมีความสุขอย่างท่วมท้น 

สวัสดี...... ฉันกับพิมพ์ผกาหันไปทางแหล่งกำเนิดเสียง ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ตรงหน้าฉัน ชายรูปร่างผอมบางสูงประมาณ 180 เซนติเมตร สวมเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาสั้น เดินจูงมือมากับสาวสวยนัยตาคมรูปร่างดี ยังไม่ทันที่ฉันจะพิจารณาคนทั้งคู่เสร็จ การกล่าวขอร่วมนั่งร่วมกองไฟก็เกิดขึ้น ฉันกับพิมพ์ผกาสบตากันเล็กน้อย และแสดงการต้อนรับเพื่อนร่วมกองไฟทันที

การแนะนำตัวก็เริ่มขึ้น เมฆและใหมเป็นคนกรุงเทพฯ ทั้งคู่อายุน้อยกว่าฉันและพิมพ์ผกา เมฆเป็นมัณฑนากรออกแบบภายใน ใหมเป็นนักบัญชี การได้มาเที่ยวพักผ่อนเพื่อหยุดพักจากงานประจำ เป็นสิ่งที่ทั้งสองคนทำประจำ เมื่อทั้งคู่เห็นกองไฟ ก็ทำให้รำลึกนึกถึงการเข้าค่ายสมัยเรียน จึงไม่รีรอที่จะขอมาเก็บบรรยากาศเพื่อเป็นสื่อกลางไปสู่ความทรงจำเก่าๆ

เมื่อมีเพื่อนใหม่ การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิด ความทรงจำ ประสบการณ์ก็ดำเนินไปเหมือนดั่งน้ำไหล

เมื่อกองไฟเริ่มมอดลง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแยกย้ายจากกัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก กับคำว่างานเลี้ยงต้องเลิกลาช่างเป็นคำที่ตัดขาดความสุขออกจากเหตุการณ์ได้อย่างเลือดเย็น ในความคิดของฉัน ความสุขจากการพบปะผู้คนยังคงดำเนินอยู่ในจิตใจแม้งานเลี้ยงได้ยุติลงไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เพียงแค่ยุติ
ครืกกก......ครืกกก............  เสียงเครื่องบดเมล็ดกาแฟทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ได้ผงกาแฟละเอียดสำหรับการชงกาแฟแบบดริป การชงกาแฟแต่ละแบบ ให้รสชาดและความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เสน่ห์ของกาแฟดริปอยู่ที่การได้ปั่นเมล็ดกาแฟ กลิ่นหอมของน้ำมันในกาแฟช่วยให้กลิ่นอโรม่าทรงพลังยิ่งขึ้น น้ำร้อนที่พอเหมาะถูกเทบรรจง กลิ่นหอมของกาแฟฟุ้งกระจายอบอวนไปทั่วบริเวณ หยดน้ำสีดำก็ไหลลงเบื้องล่างสู่ภาชนะรองรับ

ฉันถือแก้วกาแฟเดินตรงไปยังระเบียงบ้าน ที่ที่ฉันจะสามารถดื่มด่ำทัศนียภาพอันสวยงามพร้อมกาแฟแก้วโปรด กาแฟดีๆ วันดีๆ ชีวิตยอดเยี่ยม

ดวงอาทิตย์อยู่ตรงหน้า แล้วเพียงลมทะเลวูบหนึ่ง พลันฉันก็เกิดความคิดอีกครั้ง 

เมื่อดวงอาทิตย์ดับลง กองไฟถูกจุดขึ้น
เมื่อกองไฟดับลง ดวงอาทิตย์ก็ลอยขึ้นให้แสง

การสิ้นสุดของเหตุการณ์หนึ่ง มักจะมีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นเสมอ
Start at the end

Wisdom My Way


บทความล่าสุด

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 17 แขวนลอย

เศษละอองลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว แขวนลอยอยู่ตามการเคลื่อนไหวของน้ำ เมื่อน้ำหยุดนิ่ง แรงโน้มถ่วงจากพื้นดินพาลงมาสู่พื้นผิว ความร้อนเริ่มจาง แสงเริ...