วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

การเดินทางแห่งปัญญา ตอนที่ 1 เมื่อภาพและเสียงกระทบ มนุษย์ไม่เห็นสิ่งที่เป็นเบื้องหน้า



ฉันยืนอยู่ที่ไหนในโลกกันแน่ ภาพตรงหน้าช่างสวยงาม ทะเลสาบเบื้องหน้า แสงอาทิตย์ที่ทาบทาลงบนผิวน้ำ แนวทิวเขาที่วางตัวเป็นฉากหลังของภาพ ความสงบที่รายล้อมอยู่ หันไปทางไหนก็เห็นเพียงธรรมชาติที่สวยงาม เสียงลมที่พัดเอื่อยๆ ความเย็นสดชื่นที่ปะทะบนใบหน้า ช่างเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ถ้าคนอีกโลกหนึ่งของฉันได้รู้ได้เห็น คงมีใครบางแอบอิจฉาความสุขสงบและภาพทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้าเป็นแน่

ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ชีวิตของฉันยังวุ่นวายอยู่กับงานประจำ เสียงคำวิจารณ์ที่ผ่านเข้ามาจากบุคคลเพียงคนเดียว ส่งตรงมาให้รับรู้ แต่ไม่เคยมีแม้สักครั้ง ที่จะอยากรู้ว่า ถ้อยคำต้นทางกล่าวไว้ว่าอย่างไร มันเป็นเพียงคำพูดที่ผ่านการกลั่นกรองมาจากผู้รับสารแล้วเพียงเท่านั้น ถ้อยคำต้นทางอาจจะไม่ได้มีความหมายเชิงบวกหรือลบใดๆ หรืออาจจะเป็นแค่คำบ่นออกมาเพื่อสร้างปฎิสัมพันธ์ในกลุ่มก็เป็นได้

ฟังแล้ว ได้ยินแล้ว วางคืนแล้ว

เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่จะมีระบบบันทึกความทรงจำและความรู้สึก เมื่อได้รับภาพและเสียงเข้ามาผ่านประสาทสัมผัส กลไกของมนุษย์ก็จะทำการคิด วิเคราะห์ ตีความ รู้สึก และให้การกระทำบางอย่างออกมา เมื่อเราได้รับประสบการณ์นั้นซ้ำๆ ข้อสรุปนั้น จะถูกบันทึกเข้ามาอยู่ในจิตใต้สำนึก ไหลตรงเข้าสู่จิตใจ หล่อหลอมให้เกิดความคิดใหม่ พฤติกรรมใหม่ นิสัยใหม่

มีทั้งการสร้างที่เป็นบวก การสร้างที่เป็นลบ เพื่อคงความสมดุลของธรรมชาติ แต่เมื่อกฎของธรรมชาติที่มีแรงโน้มถ่วงและแรงดึงดูด เมื่อน้ำไหลจากที่สูงลงมาสู่ที่ต่ำได้ง่ายกว่า ความคิดและจิตใจของมนุษย์เราที่ไม่อาจฝืนสติปัญญาจึงต้องไหลลงไปด้วยความง่าย คึกคะนอง และด้วยความอยากเป็นที่ยอมรับ

แล้วเราจะหลุดจากวัฎจักรนี้ไปได้อย่างไร

คำถามแห่งปัญญาก็ปรากฎ
ต้องมีคำถามที่ดีก่อน แล้วจะมีคำตอบที่ดี

เมื่อมนุษย์เราสะสมประสบการณ์ทั้งด้านบวกและลบตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน การคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจจึงเกิดจากความรู้และประสบการณ์

มนุษย์ ได้มองเห็นสิ่งตรงหน้า ในแบบที่มันเป็นใหม
มนุษย์ ได้ให้คำวิจารณ์ในสิ่งตรงหน้า ก่อนที่จะได้รู้จักหรือเปล่า
มนุษย์ ได้ตัดสินใครบางคน จากเรื่องเล่าของผู้อื่นหรือไม่
มนุษย์ รู้สึกโกรธเกลียดใครที่เราไม่ได้รู้จัก แต่เพียงได้ยินข่าวที่ขายออกมาใหม

เมื่อเรามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในแบบที่สิ่งนั้นเป็น ปัญญาจะบอกกับเราว่า
สิ่งตรงหน้า          คือ สิ่งๆนั้น
บุคคลตรงหน้า    คือ คนๆนั้น
เสียงที่ได้ยิน       คือ เสียงๆนั้น
ข้อความที่ส่งมา  คือ ข้อความๆ นั้น

คำถามแห่งปัญญา
เราเห็นอะไร เราได้ยินอะไร สิ่งนั้นทำให้เรารู้สึกอย่างไร เราตีความกับสิ่งนั้นว่าอย่างไร

เราได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งนี้หรือไม่ ถ้าไม่ทำให้เราเติบโตหรือพัฒนาขึ้น วางทิ้งไป

เราได้สิ่งล้ำค่าอันประเสริฐ จงเก็บไปตรึกตรองและนำไปใช้ แบ่งปันให้ผู้อื่นต่อไป

เราคือสิ่งที่คิด

Wisdom My Way

บทความล่าสุด

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 17 แขวนลอย

เศษละอองลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว แขวนลอยอยู่ตามการเคลื่อนไหวของน้ำ เมื่อน้ำหยุดนิ่ง แรงโน้มถ่วงจากพื้นดินพาลงมาสู่พื้นผิว ความร้อนเริ่มจาง แสงเริ...