วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2562

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 6 เดินชายหาด เจอหมู่ดาว

 ฉันสะดุ้งตัวเล็กน้อย มือเอื้อมไปลูบเส้นผมออกจากใบหน้า รู้สึกถึงความงัวเงีย เป็นการบ่งบอกถึงการสิ้นสุดการหลับใหล เสียงคลื่นซัดชายฝั่งส่งเสียงทักทายยามเช้า ซ้อนเสียงกัน คลื่นต่อคลื่น เหมือนเพลงบรรเลงที่ถูกแต่งด้วยนักประพันธ์เพลงมืออาชีพ ฉันนอนจินตนาการถึงฟองอากาศที่ม้วนตัวขึ้นมาบนชายฝั่ง นำ้ทะเลก็ถอยร่นลงไป เกลียวคลื่นลูกใหม่ก็ซัดสาดขึ้นฝั่งมาพร้อมเสียงสะท้อนกังวาลและฟองคลื่นสีขาวชวนน่ามอง





การซุกตัวใต้ผ้าห่ม บนเตียงสีขาว ช่างแสนสบาย แม้ว่าสติจะกลับคืนมาแล้ว แต่ร่างกายยังอยากนอนเกลือกกลิ้งฟังเสียงเพลงแห่งเกลียวคลื่นต่อไป แสงแดดสีทองสาดส่องด้วยความอ่อนโยนแทรกผ่านหน้าต่าง ประหนึ่งรู้ว่า มีคนซ่อนตัวอยู่บนเตียงตรงนี้ ฉันยังคงนอนปล่อยความคิดต่อไป ไร้ซึ่งความพยายามในการดันตัวลุกขึ้นมาจากเตียง


ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงจากอีกฝั่งประตูดังขึ้น ฉันค่อยๆเลื่อนตัวลงจากเตียงด้วยความเกียจคร้าน เดินผมยุ่ง ตรงไปยังประตูต้นกำเนิดเสียง เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ประตู เสียงจากอีกฝั่งก็ดังขึ้น "ตื่นหรือยังคนขี้เซา" สิ้นสุดซึ่งการนอนแบบไร้จุดหมาย

มือบอบบางค่อยๆ เอื้อมไปจับลูกบิดประตู เมื่อประตูเปิดออก ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม สวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นสีฟ้าอ่อน กระเป๋าถักเชือกป่านสุดเก๋ ดูมีชีวิตชีวาก็ยืนเผยตัวอยู่ตรงหน้า พิมพ์ผกา คือเพื่อนสมัยมัธยมของฉัน เธอเดินทางล่วงหน้ามาก่อนหนึ่งวัน และนี่คือสัญญาณบ่งบอกว่า กิจกรรมวันพักผ่อนกำลังจะเริ่มขึ้น

ฉันใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการเตรียมตัวไปเดินชายหาดยามเช้า และตอนนี้ เท้าเปลือยเปล่าของฉันก็สัมผัสกับผืนทรายขาวละเอียด เสียงคลื่นซัดสาดชัดมากกว่าการได้นอนฟังบนเตียง กลิ่นไอทะเลทะลักเข้าสู่โพรงจมูกและปอด มันช่างคุ้มค่าจริงๆ กับการทอดทิ้งความยุ่งเหยิงในเมือง เพื่อมายืนตรงจุดนี้

เราเดินกันไปเงียบๆ เพื่อเก็บบรรยากาศตอนเช้า แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักกับภาพตรงหน้า พิมพ์ผกาชี้นิ้วไปที่สุดขอบชายหาด เมื่อเห็นชายคนหนึ่ง กำลังขวางปาบางอย่างลงสู่ท้องทะเล ชายผู้นั้นเก็บอะไรบางอย่างจากพื้นทราย แล้วก็เขวี้ยงลงทะเล ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า สร้างความฉงนสงสัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา

เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ขึ้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้พวกเราประหลาดใจ ปลาดาวมากมายวางตัวอยู่บนพื้นทราย น้ำทะเลที่ลงอย่างรวดเร็ว คงไม่ได้พาปลาดาวกลับสู่ท้องทะเล หรือเป็นเพราะปลาดาวเคลื่อนตัวไม่ทันกันแน่ ในใจฉันครุ่นคิด

แล้วเสียงชายหนุ่มคนนั้นก็ดังขึ้น

สวัสดีครับ ยินดีที่ได้เจอพวกคุณ พวกคุณพอมีเวลาบ้างใหม ผมอยากชวนพวกคุณพาปลาดาวเหล่านี้กลับท้องทะเล แล้วชายหนุ่มก็ก้มตัวหยิบปลาดาวจากพื้นทราย โยนกลับไปสู่ทะเล ตัวแล้วตัวเล่า ไม่มีทีท่าจะสนใจคำตอบจากพวกเรา

แต่น่าแปลก ฉันกับพิมพ์ผกาไร้ซึ่งการตอบกลับคำถามจากชายตรงหน้า แต่พวกเรากลับก้มลง เอื้อมมือผอมบางไปหยิบปลาดาว วินาทีที่สัมผัสช่างแปลกประหลาด แต่เหมือนฉันก็ไม่ได้ใส่ใจกับความรู้สึกนี้แน่ชัดว่าคืออะไร เหมือนเราต้องทำงานแข่งกับเวลา ก่อนที่แสงแดดจะแผดเผาปลาดาวเหล่านี้ ตัวแล้วตัวเล่าที่พวกเราโยนลงกลับสู่ทะเล

เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ผู้คนมากมายจากที่ไหนกัน มาช่วยพาปลาดาวที่นอนกลาดเกลื่อนชายหาดกลับสู่ท้องทะเล

ความคิดก็ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มตรงหน้า มีเป้าหมายชัดเจนและยิ่งใหญ่เพื่อคนอื่น การกระทำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธา ส่งต่อไปยังผู้คนอื่นให้ได้รับรู้ เริ่มจากคนคนเดียวที่ทำสิ่งที่ดีงาม โดยไม่รู้สึกย่อท้อ และไม่แยแสว่าใครจะสนใจใหม ความตั้งใจนั้น เหมือนดั่งกระแสคลื่นที่กระทบต่อไปเป็นทอดๆ จนเกิดเป็นความพลังอันยิ่งใหญ่

เพียงแค่เรามีความมุ่งมั่น เริ่มทำและทำต่ออย่างต่อเนื่อง แม้งานของเราจะมีมากเพียงใด เราก็สามารถบรรลุถึงความสำเร็จได้ และด้วยการสนับสนุนจากผู้คนที่เห็นถึงความมุ่งมั่น เราจะยิ่งบรรลุถึงความสำเร็จได้ง่ายพร้อมด้วยกำลังใจที่เอ่อล้นไปถึงผู้อื่น

ความมุ่งมั่นและศรัทธา

Wisdom My Way




บทความล่าสุด

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 17 แขวนลอย

เศษละอองลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว แขวนลอยอยู่ตามการเคลื่อนไหวของน้ำ เมื่อน้ำหยุดนิ่ง แรงโน้มถ่วงจากพื้นดินพาลงมาสู่พื้นผิว ความร้อนเริ่มจาง แสงเริ...