วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 3 รางรถไฟกับไม้หมอน



การเดินทางเริ่มต้นขึ้นแล้ว เสียงหวูดของรถไฟเครื่องยนต์ดีเซลล์เผยสัญญาณให้ผู้โดยสารได้ยิน เสียงเคลื่อนตัวของรถไฟที่เอื่อยอ่อนแต่หนักแน่นค่อยๆแผดเสียงออกมา กระฉึกกระฉัก กระฉึกกระฉัก แล้วเสียงก็ค่อยๆดังขึ้น เร็วขึ้น จนผู้โดยสารไม่ทันรู้สึกกับเสียงเดินรถไฟอีกเลย เหลือเพียงความเพลิดเพลินในการมองภาพชีวิตผู้คน บ้านเรือน  ต้นไม้ ภาพข้างทาง

ทุกครั้งที่มีการหยุดรถที่สถานีระหว่างเส้นทาง แม่ค้าขายอาหาร ขนม น้ำดื่ม ก็รีบพากันขึ้นมานำเสนอสินค้า บริการผู้โดยสารให้ได้มีอาหารรับประทานกัน

เมื่อรถไฟออกเคลื่อนตัวอีกครั้ง ภาพสถานีและตัวเมืองก็เริ่มเคลื่อนห่างออกไป มันไม่ใช่เมืองที่หนีหายจากเรา แต่เป็นเราที่ออกตัวห่างจากเมืองไป การนั่งรถไฟมีเสน่ห์อย่างหนึ่ง เมื่อรถไฟเคลื่อนผ่าน สายลมปะทะหน้า ความคิดของเรายิ่งถูกปลดปล่อยออกมา ยิ่งเมื่อเห็นภาพสวยๆตรงหน้า จินตนาการก็แหวกออกมาให้เห็นตัวตน

แล้วความคิดก็ล่องลอยออกไป เบาเหมือนปุยเมฆ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่รถไฟกำลังจะจอดสถานีต่อไป พลันสายตาก็เหลือบไปมองรางรถไฟที่วางตัวทอดขนานกัน แล้วก็รู้สึกทึ่งกับไม้หมอนที่วางเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ถ้ารางรถไฟบิดๆเบี้ยว ไม้หมอนวางตัวอย่างเกเรล่ะก็ เราคงเดินทางไปไม่ถึงจุดหมายเป็นแน่

ใช่แล้วล่ะ เส้นทางเดินรถไฟถูกสร้างมาจากสภาพพื้นผิวที่แตกต่างกันทั้งดิน หิน ทราย แต่ด้วยความอัจฉริยะของมนุษย์ เส้นทางเดินรถไฟ ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการคมนาคมและการขนส่ง การสร้างทางรถไฟสักเส้น จะต้องมีการวางแผน กำหนดระยะเวลา ศึกษาภูมิประเทศ และอีกมากมาย กว่าจะสามารถเดินรถไฟได้จริง

และด้วยตัวรถไฟเอง ก็มีน้ำหนักไม่ใช่น้อย พื้นที่รองรับรางรถไฟและตัวรางรถไฟต้องมีความแข็งแกร่งอย่างมาก

เปรียบเหมือนมนุษย์เรา การที่จะไปถึงเป้าหมายก็ต้องเจออุปสรรค ต้องสร้างเส้นทางการเดิน สร้างพื้นฐานองค์ความรู้ของ เพื่อจะเอามาใช้ในชีวิตจริงได้ เพราะในชีวิตของเรา ต้องเผชิญกับด่านทดสอบมากมาย เหมือนการแล่นของรถไฟ

เพียงไม้หมอนอันเดียวที่เกเร รถไฟก็อาจจะคว่ำได้

ชีวิตของเรา อาจจะไม่ต้องสมบูรณ์แบบ แต่เราต้องจัดเรียงสิ่งต่างๆในชีวิตของเราให้เป็นระเบียบ ให้ใช้ชีวิตผ่านไปได้อย่างดี เมื่อเผชิญกับสิ่งท้าทายใหม่ ก็สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยความสำเร็จ

ถ้าวันหนึ่งเราต้องเลือกว่าสิ่งที่เราทำนั้น คือแกนหลักในชีวิต หรือเป็นเพียงปัจจัยให้เราดูดีขึ้น ลองประเมินดูว่าสิ่งนี้ คือไม้หมอนหรือเปล่า 
ถ้าไม่ใช่ เป็นเพียงแค่กิ่งไม้ที่สุมบนรางรถไฟ เราก็เพียงแค่ปัดมันออกไป ชีวิตของเราจะไม่ถูกกระทบเลย หรือถ้าจะถูกกระทบ ก็เพียงเล็กน้อย ชีวิตของเราจะไม่ซัดเซ
ถ้าใช่ สิ่งนี้คือไม้หมอน แล้วเราตัดมันทิ้งไป หรือทำแบบไม่เต็มความสามารถ ผลกระทบมันจะไหลเข้าเป็นโดมิโน แล้วเราก็จะรู้สึกว่า เราถูกซัดด้วยวิบากโลก

ทุกครั้งที่เราต้องเลือก ว่าสิ่งที่เราทำอยู่สำคัญกับชีวิตใหม ไม่ต้องทำทุกอย่างในชีวิต แค่เลือกทำในสิ่งที่สำคัญกับชีวิต 

รางรถไฟกับไม้หมอน

Wisdom My Way

บทความล่าสุด

การเดินทางของปัญญา ตอนที่ 17 แขวนลอย

เศษละอองลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว แขวนลอยอยู่ตามการเคลื่อนไหวของน้ำ เมื่อน้ำหยุดนิ่ง แรงโน้มถ่วงจากพื้นดินพาลงมาสู่พื้นผิว ความร้อนเริ่มจาง แสงเริ...